Ads

แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ คอสเพลย์ แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ คอสเพลย์ แสดงบทความทั้งหมด

วันพฤหัสบดีที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2563

ทำไมถึงชอบคอสเพลย์ ? จุดเริ่มต้นของเจเจในโหมดคอสเพลย์เป็นยังไง?


มีคนหลายๆคนชอบถามเจมาตลอดค่ะว่า แต่งคอสเพลย์ด้วยหรอ?’ ทำไมถึงอยากแต่ง?’


บล็อกนี้จะมาเล่าค่ะ

เรื่องมีอยู่ว่า…จุดเริ่มต้นคือ ตั้งแต่เด็ก เจชอบดูการ์ตูนมากค่ะ ไม่ว่าจะเป็นแบบมังงะหรือดูในทีวี ตอนนั้นมีเคเบิ้ลทีวีที่บ้าน มีทั้เคเบิ้ลการ์ตูนพวกเอนิเมะญี่ปุ่นและเคเบิ้ลการ์ตูนฝรั่ง ส่วนตัวเจนั้น เจดูทั้งทางเคเบิ้ลและการ์ตูนที่ฉายตามช่องโทรทัศน์ทั่วไปค่ะ วันไหนที่ไม่ได้ดูการ์ตูนหรือมาดูเรื่องบางเรื่องไม่ทันที่จะฉายซะก่อนจะงอแงมากกกกกกก..TT^TT

ถามว่าชอบวาดการ์ตูนด้วยมั้ย?... มีบ้างค่ะ วาดกับดินสอบนกระดาษธรรมดาๆนี่แหละค่ะ (ส่วนตัวแอบมีความขี้เกียจวาด) ตามจริงชอบวาดรูปตั้งแต่เด็กค่ะ และชอบวาดตามฝาผนังบ้านด้วยตามประสาวัยหัดคลาน ช่วงที่มีเวลาวาดรูปมากๆ ก็เป็นตอนมัธยมต้นค่ะ


 


เนี่ยแหละค่ะจุดเริ่มต้นไงว่าทำไมเจอยากแต่งคอสเพลย์ !!!!...ช่วงมัธยมปลายเห็นเพื่อนใกล้ตัวเริ่มแต่งคอสเพลย์กัน ไอเราก็ชอบการ์ตูนเหมือนเพื่อนก็เลยอยากใส่บ้าง กลับบ้านเปิดอินเตอร์เน็ตดูราคาชุด วิธีแต่งหน้า ย้อนดูการ์ตูนที่ชอบ ซ้ำไปซ้ำมา ตอนนั้นก็ลองไปขออนุญาตพ่อแม่ตรงๆค่ะและได้อธิบายว่าอยากจะแต่งคอสเพลย์จริงๆ (ทำตาปิ๊งๆ) แต่….ด้วยความที่ชุดคอสเพลย์ราคามันค่อนข้างสูงเลยทีเดียว !! พ่อกับแม่เลยปฏิเสธไปเต็มปากเต็มคำเลยค่ะว่า มันค่อนข้างไร้สาระและไม่มีความจำเป็น !! ซึ่งตอนที่ได้ยิน ณ ตอนนั้น มีความรู้สึก ใจสลายจมลงไปในกองเลือด TT^TT ฮืออออ ….

แต่ก็ไม่ลดละความพยายามค่ะ งั้นถ้าพ่อแม่ไม่สนับสนุน หนูก็จะลงมือเอง !! ก็ศึกษาคอสเพลย์ไปเรื่อยๆน่ะค่ะ มีถามเพื่อนบ้าง รวมถึงเก็บเงินด้วยตัวเองมาตลอดค่ะ และแน่นอนว่า อย่างที่ทุกๆคนรู้กันนะคะ ว่า ....  ''การ์ตูน'' กับ ''เกม'' มันคือ ของคู่กันเสมอ......^^  ช่วงนั้นติดเกมออนไลน์ที่ชื่อว่า Dragon Nest เอามากๆ( เล่นตั้งแต่เกมเพิ่งเปิดแรกเริ่มเลยค่ะ) ติดใจตัวละครน้องโลลิสายอาชีพ Academic เป็นที่สุด (ตัวละครนั้นมาเปิดตัวตรงวันเกิดด้วยยย ^0^ ) จากนั้นก็ตามหาร้านรับตัดชุดราคาไม่แพง ขุดหานานมากค่ะเพราะโดยมากก็เจอแต่ที่ราคาแพงๆ สมัยนั้นร้านที่ขายราคาถูกๆแทบไม่มีค่ะตัวละครแรกที่แต่งก็น้องแว่นโลลินี่เลยค่า (แอบอายนิดนึง)






ตอนนั้นที่ลงเฟสครั้งแรกก็เขินๆอายๆค่ะ มีทั้งกลุ่มคนที่ชอบเรา ให้คำสนับสนุนแนะนำเราดีๆว่าควรไปปรับปรุงจุดไหนบ้าง และกลุ่มคนที่บูลลี่แอนตี้เราค่ะ ก็มีมาว่าเราเสียๆหายๆหนักอยู่ค่ะ ทั้งในเรื่องหน้าตา ดูถูก เหยียดหยาม พูดใส่ร้ายสารพัดสิ่งที่เกี่ยวกับตัวเราทำให้เราเกิดความเสียหายค่ะ รวมถึงบางคนรับความเป็นตัวเราในโหมดคอสเพลย์ไม่ได้เลยก็มีค่ะ ตอนนั้นก็มีเสียใจบ้าง เหมือนได้แต่คิดว่าเราไปทำอะไรผิดมาหรอ จนท้ายที่สุดแล้วก็เลยแค่คิดซะว่า ..เค้าไม่ชอบเรา ก็แค่นั้น....

 

เมื่อเริ่มเข้าเรียนตอนปี 1 เจพยายามใช้เวลาว่างดูพวกคลิปแต่งหน้าค่ะ และเริ่มหันมาหัดใส่คอนแทคเลนส์ ส่วนตัวเรื่องคอนแทคเลนส์นี่ยากจริงสำหรับเจค่ะ เนื่องจากว่าเจเป็นคนตาเล็กมากและกลัวอะไรที่เข้าตามากๆค่ะ (กลัวมากๆ กว่าจะใส่เป็นตอนนั้นก็เรียนปี 3 แล้ว) ส่วนเรื่องการแต่งหน้าตอนนั้นเริ่มจากการลองผิดลองถูก ใช้เครื่องสำอางของปลอมจนหน้าผุพังไปบ้างแล้วยอมหันมาใช้เครื่องสำอางของแท้ค่ะ (ยอมรับว่าตอนนั้นซื้อเครื่องสำอางไม่เป็นเลย เห็นอะไรราคาถูกคือซื้อไว้ก่อน) แต่งเป็นบ้าง ไม่เป็นบ้าง ซื้อของมาถูกบ้าง ผิดบ้าง (อันไหนที่ซื้อมาผิด ก็เอาไปแจกค่ะ 5555)

ต่อมาก็เป็นการเริ่มเข้าหาเพื่อนที่ชอบคอสเพลย์เหมือนเราค่ะ ตอนนั้นยอมรับเลยว่ากลัวมาก กลัวมีคนรับความเป็นตัวเราไม่ได้จริงๆ ไม่มีความมั่นใจในตัวเอง เลย( มันยังฝังใจจากที่โดนแอนตี้มาในอดีต ) ก็เลย ถอนหายใจ เห้อออ เอาละว้า ด้านได้อายอด ลองสักตั้ง! วันนั้นเป็นวันงานย้อนอดีต งานถนนคนเดินท้องถิ่นประจำจังหวัดทุกเดือนกุมภาค่ะ เห็นมีคนแต่งคอสเพลย์ไปเดินเล่นเต็มไปหมด เราเลยลองหน้าด้านเข้าไปทักทายกับทุกคนในนั้น  สรุป…. จากที่ไม่กล้าทักใคร กลายเป็นว่าโม้กันยังกะแม่ค้าปากตลาดไปเลย ^^… (วันนั้นก็แลกเฟสบุ๊ค ไลน์ เบอร์กันแหลกลานจนเครื่องค้าง) คืนวันนั้นเป็นคืนที่หลับฝันดีสุดๆไปเลย เหมือนมันดีใจแบบว่า ในที่สุดก็มีคนยอมรับเราในตัวตนแบบนั้น ยอมรับเราที่เราทำในสิ่งที่เราชอบ มีความสุขไปกับมัน และรวมถึงได้รู้จักกับเพื่อนใหม่มากมายเลยค่ะ (เหมือนมีชีวิตใหม่เลย) ในบางครั้งก็เริ่มมีเพื่อนชวนดูการ์ตูนเรื่องอื่นๆบ้าง เม้ามอยโม้กันเรื่องการ์ตูนเอนิเมะ เรื่องเกม ชวนกันไปถ่ายรูป ชวนกันไปเที่ยวนัดเจอกันบ้าง ก็รู้สึกสนุกขึ้นค่ะ และเมื่อในวงการคอส เด็กคอสมักจะมีชื่อเป็นของตัวเองที่เพื่อนๆมักจะเรียกในวงการที่เราเรียกกันว่า เนสคอส Name Cos’ …. ตอนนั้น ก็เริ่มถูกถามแล้วว่า มีเนสคอสชื่อว่าอะไรหรอ? บ่องตงไม่เคยคิดมาก่อน แต่ในสมัยเรียนมัธยมมีเพื่อนที่เรียนห้องศิลป์ภาษาญี่ปุ่น มักจะเรียกเจแบบติดปากว่า ... ‘อีเจ อีเจ’  (อารมแบบว่าเพื่อนมันหมั่นไส้เราอ้ะ 555555) ….จนกระทั่งตอนหลังได้ผวนจนเป็นคำว่า เอจี’……….แล้วเพื่อให้มันฟังเป็นสำเนียงญี่ปู๊นนนนนนนน ญี่ปุ่นเข้าไปอี๊กกกก ก็เลยเป็นคำว่า เอจิค่ะ และได้เติมคำลงท้ายคำว่า ซามะ Sama’ ในภาษาญีปุ่น แปลว่า ท่าน แต่ที่จริง เจเอามาจากคำว่า โอโจซามะ Ojousama’ ที่แปลว่า ลูกคุณหนู ..แต่ว่าหากเอามาต่อกันแล้วมันอาจจะดูยาวไปค่ะ เจเลยตั้งเป็นว่า เจเจ เอจิซามะ Jj EiJi-Sama’ค่ะ คนในวงการคอสมักจะเรียกสั้นๆว่า เอจิ EiJi’ ค่ะ


หลังจากที่การแต่งคอสน้องแว่นผ่านไปต่อมาก็ได้ริเริ่มแต่งเป็นตัวละครในการ์ตูนบ้าง อย่างเช่นตัวละครสุดรักสุดเลิฟ อาเคมิ โฮมุระ จากการ์ตูนในตำนานที่ไม่ตรงปก มีชื่อเรื่องว่า มาโดกะสาวน้อยเวทมนตร์ นั่นเอง ! ซึ่งในตอนนั้นเจมักจะเน้นตัวละครที่เป็นลุค สาวแว่น ค่ะ เนื่องจากตอนนั้นยังใส่คอนแทคเลนส์ไม่เป็น รวมถึงกลัวโดนคำด่าจากการใส่แว่นตาแต่งคอสเพลย์ค่ะ (ตัวละครน้องแว่น Academic DN นั้นก็น้องแว่น แว้นนนนน แว่นเลย )



 


ในเรื่องของการซื้อชุด เจเป็นคนชอบใส่ใจรายละเอียดค่ะ (อารมว่า มีพรอพกับเครื่องประดับ โทนสีที่ใกล้เคียงกับต้นฉบับ) ส่วนตัวคิดว่ามันไม่จำเป็นต้องเหมือนเป๊ะร้อยล้านเปอร์เซ็นไปซะทีเดียว รวมถึงเจไม่ได้มีเวลากับคอสเพลย์มากขนาดนั้น ก็เลยคิดว่าพวกรายละเอียดหากไม่เหมือนซะทีเดียวแต่ถ้าใกล้เคียงก็ถือว่าไม่แย่ค่ะ ..ถ้าถามว่าเจหาซื้อจากที่ไหนน่ะหรอ เจมักจะสั่งซื้อจากร้านที่จีนค่ะ เพราะว่ามันค่อนข้างถูกและมีตัวเลือกที่หลากหลายดีค่ะ บางครั้งก็หาซื้อตามที่ประกาศขายมือสองสภาพดีๆค่ะ แต่ถ้าบางอย่างมันงานดีจริงๆอารมแบบว่า ดีมากๆอลังการล้านแปดแต่ราคาแพง บางทีเจก็ยอมจ่ายเพื่อสิ่งนั้นนะคะ (คิดซะว่า ราคามาพร้อมกับคุณภาพค่ะ)

 

สิ่งที่หนักใจที่สุดเวลาซื้อชุดและอุปกรณ์คอสเพลย์ คือ รองเท้า ค่ะ ..!!! เป็นอะไรที่ worry มากกกกก เพราะว่าเราไม่ได้ลองสวมลองใส่ ต้องกะขนาดเท้าเอง แล้วแถมยังต้องมาเดาเสี่ยงดวงอีกว่าจะใส่ได้มั้ย จะหลวม หรือจะคับ ทำเอาให้ต้องมานั่งลุ้นทุกครั้งเลย



 ช่วงนั้นยังใส่คอนแทคเลนส์ไม่เป็นค่ะ เลยคอสแบบใส่แว่นตาไปก่อน 




  






    





พอแต่งคอสเพลย์ไปสักพักนึง ก็เริ่มกลับมาหัดใส่คอนแทคเลนส์ (ใส่ครั้งแรก 3ชั่วโมงแน่ะ)หลังจากที่ใส่คอนแทคเลนส์เป็นแล้ว มีความรู้สึกราวกับ Unlock achievement ในเกมเลยทีเดียว มีความมั่นใจมากขึ้น แทบจะเมินแว่นตาตัวเองไปจริงๆค่ะ และก็แต่งคอสเพลย์โดยไม่ใส่แว่นตาค่ะ










ในเรื่องของการไปออกงาน ก็จะเอาที่สะดวกค่ะ มีเวลาอยู่ในงานทั้งวัน ถ้าชนเรียน ชนสอบ ชนทำงาน หรือติดธุระสำคัญ เจจะไม่ไปค่ะ จะเลือกไปงานในเมื่อมีเวลาว่างจริงๆ เพราะไม่อยากให้กระทบกับหน้าที่ที่สำคัญค่ะ สำหรับงานใกล้บ้านเนื่องจากเป็นคนต่างจังหวัด งานจะมีไม่เยอะค่ะ บางครั้งเจจะไปเดินในงานที่กรุงเทพ ไม่ก็หากไม่มีเวลาจริงๆ จะถ่ายไพรเวทกับเพื่อนๆเอาค่ะ

 

สุดท้ายนี้ ถามว่าทุกวันนี้ยังชอบคอสเพลย์อยู่มั้ย? …. บอกเลยว่าชอบค่ะ ถือว่าเป็นงานอดิเรกที่เราได้อยู่กับสิ่งที่เราชอบ และมีความสุขกับคนที่ชอบเหมือนเรา เป็นอีกหนึ่งสังคมที่ทำให้เจได้เรียนรู้ว่า เมื่อเราทำในสิ่งที่เราชอบ สิ่งที่เรารัก เป็นธรรมดาที่จะทั้งคนรักและคนเกลียดค่ะ ให้เรามีความสุขกับสิ่งที่เราทำก็พอแล้ว ปัจจุบันถึงแม้ตอนนี้จะอยู่วัยทำงานไม่มีเวลาให้กับคอสเพลย์สักเท่าไหร่ แต่ก็ยังไม่ทิ้งการแต่งคอสเพลย์ไปซะทีเดียวค่ะ







        
JJDiary