เคยมั้ยคะ
ที่ไม่ได้ศึกษาอะไรให้ดีก่อนที่จะไปเที่ยว??
เคยมั้ยคะ ถึงแม้ภาษาจีนกระท่อนกระแท่นแต่ก็กล้าลุย??
ทริปนี้
จะมาบอกถึงความป่วน ก๊วนพวกเราสู่ยอดเขาซีซานค่ะ
**ปล. ขออภัยที่หารูปถ่ายไม่เจอค่ะ
มันก็เป็นเรื่องราวแสนจะเนิ่นนาน
บวกกับวีดีโอถ่ายกับมือถือรุ่นเก่าๆที่เบลอๆไม่ชัดด้วยนะคะ**
สมัยเป็นนักศึกษาปี 1 เนี่ย ยิ่งเป็นเด็กใหม่ ใสๆ
เฟรชชี่น้องใหม่ไฟแรงอยู่ด้วย ใครๆก็มีโมเม้นอยากออกไปเที่ยวกับเพื่อน ออกไปป่วน
บ้าไปด้วยกัน รักสนุกกันอยู่ใช่มั้ยคะ ? …ยิ่งถ้ามหาลัยมีให้ไปเรียนที่ต่างประเทศเนี่ย
คงจะยิ่งชอบกันไปใหญ่เลย เพราะก็ถือว่าเป็นอะไรใหม่ๆที่หลายๆคนได้ออกไปเปิดหูเปิดตา
ทำในสิ่งที่ไม่เคยทำ พูดง่ายๆ ใช้ชีวิตวัยเรียนให้คุ้มค่านี่เอง ^^
คุณหมิงเนี่ย ถ้าในสายตาของคนไทยอย่างพวกเราเนี่ย คือ อากาศดี
อาหารเผ็ด ที่เที่ยวเยอะมาก ( อันนี้คือประเด็น 55555 ) ยิ่งช่วงนั้นเพิ่งเป็นการไปเรียนที่จีนครั้งแรกของพวกเราเนี่ย…
การทำการบ้านหรือการเตรียมพร้อมหาข้อมูลเกี่ยวกับที่เที่ยว บอกเลยว่า 0 เลยค่ะ vpn ในสมัยนั้นเนี่ย
แทบไม่มีแอพอะไรเลยด้วย ช่วงนั้นเทคโนมันก็ก้ำกึ่งพัฒนาแหละ
พวกเราก็ไปแบบงมๆงงๆน่ะค่ะ ไม่ซีเรียส ไม่อะไรมาก ดีกว่าอยู่หออยู่เฉยๆเบื่อๆ ^^
ทริปไปสู่ยอดเขาซีซานนี้
พวกเราเที่ยวเดินตามรอยเพื่อนนักศึกษากลุ่มอื่นๆที่ไปมาค่ะ (
ซึ่งเอาจริงๆก็ไม่มีใครไปถึงอย่างแก่นแท้ทุกคน
) ถามๆเพื่อนเอาว่า ไปยังไง ค่าเข้าเท่าไหร่ อะไรแค่เนี่ยะ
ข้อมูลก็ได้มาไม่เยอะ จากนั้นวันถัดมา พวกเรา 7
คนก็เลยลุยเอาดาบหน้าแบบนี้เลย
แนะนำตัวละครทริปนี้ค่ะ มีเจเจ ออม ซอล รส แต๊ก ดรีม และเดือนค่ะ
ถ้าเป็นรูปถ่ายเซลฟี่นี้ เห็นครบทุกคนเลย
วิธีไปตอนนั้น
พวกเราเกาะรถเมล์หน้ามหาลัยค่ะ ไปลงที่ๆนึง
เพื่อที่จะโบกรถแท็กซีนั่งยิงยาวไปซีซานเลย ( เพราะตอนนั้นคิดว่า หากเรานั่งแท็กซีเริ่มต้นจากมหาลัยไปซีซานทีเดียวนั้น
มันคงจะแพงน่าดู การนั่งรถเมล์อาจช่วยประหยัดตังค์ได้สักนิดนึงก็ยังดี ) ^^
ทีแรกตอนนั้นเราจะแบ่งรถเป็น 2 คัน กะว่าคันแรก จะส่งเพื่อนกลุ่มแรกไปก่อน
แล้วพวกเจจะนั่งคันที่ 2 ตามไปทีหลังน่ะค่ะ แต่ว่า….ลุงขับแท็กซีใจดีคนนี้
ลุงให้พวกเรานั่งอัดในรถคันเดียวกัน 7
คนเลย ..!!! โอแม่เจ้า…!!! ลุงเอาจริงดิ ??!!! แทบบี้กันเป็นปลากระป๋อง 55555
( มันก็ดีตรงที่ไม่เปลืองเงินนี่แหละ
หารกับเพื่อนๆเหมือนว่าเสียกันคนละไม่กี่หยวนเลย )
พอมาถึงตรงจุดขายตั๋ว
ตอนนั้นในหัวคิดแค่ว่า จะไปแค่ประตูมังกรค่ะ เพราะไอสถานที่อื่นเนี่ยะ
ไม่รู้เลยว่าคืออะไร ไม่มีข้อมูลกันเลย 555
ก็เลยจ่ายค่ากระเช้าต่อไปอีก เพราะประตูมังกรมันอยู่สูงมากค่ะ
นั่งนานอยู่นะ
ประมาณ 15 นาทีเลย และแล้วพวกเราก็มาถึงที่นี่เลย ‘‘ประตูมังกร’’ เป็นที่ที่คนจีนเชื่อกันว่าหากมาถึงทีนี่แล้วเดินลอดผ่านทางประตูมังกร
จะทำให้เป็นการปัดเป่าสิ่งไม่ดีแล้วสิ่งที่ดีจะเกิดขึ้นกับเราเป็นเท่าตัวค่ะ
หลังจากนั้นพวกเราก็เที่ยวเดินไปเรื่อยค่ะ
เรียกไม่ถูกอ้ะ ว่าแต่ละศาลเนี่ยะ มันเรียกยังไงบ้าง
ระหว่างทางจะพบพวกศาลเจ้าพ่อเสือและพวกศาลเทพเจ้าน่ะค่ะ ( เสียดายไม่มีรูป )
หลังจากนั้น
การเที่ยวของพวกเราก็ถูกตัดจบแบบ งงๆ อึนๆมากๆ !!!
เมื่อพวกเราเดินไปถึงทางแยกที่ๆนึงที่ไม่มีแม้แต่ป้ายบอกทางและไม่มีคน
แต่สิ่งที่เจอคือ บันไดที่พาลงไปชั้นล่าง ….
เดินไปสักพักเริ่มรู้สึกว่า
เออ มันหลงของจริงแล้วเปล่านี่ นานๆทีจะเจอคนจีน คนสองคนเดินลงบันได
หรือเดินขึ้นสวนพวกเราบ้าง
และแล้วพวกเราก็เหนื่อย
หมดแรงข้าวต้มกันค่ะ นั่งพักกินหนมกันก่อน ดีที่เดือนเอาขนมมาเพียบ ^^
พอกินเสร็จแล้ว
เดินต่อไปอีกสักพักนึง แต๊กเผลอไปสะดุดเอาลูกหินลูกเนิน
แล้วดันใส่รองเท้าแตะมาด้วยเนี่ยสิ แตะแทบพัง 5555 ได้ข่าวว่าเพิ่งถอยเป็นรองเท้าคู่ใหม่ไม่กี่วันนี้เองนะเพื่อน…… คนจีนนี่ถึงกับงงกับอึ้งเลยว่า เกิดไรขึ้น ?! เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า ถ้าต้องมา adventure อย่าได้ใส่แตะมา 55555
จากนั้นพวกเราก็ไม่มีอะไรแล้ว
เดินๆๆๆ แล้วก็เดินค่ะ
เดินจนกระทั่งเจอถนนใหญ่มีรถยนต์ขับไปมา
เลยรู้ว่า …. เออ ทางเนี่ยะ
มันเป็นทางพาพวกเราออกมาจากซีซานแล้ว !!สรุป
ทริปเราถูกตัดจบเพียงเท่านี้อย่างน่าเสียดาย ฮรือออ… TT^TT ยังไม่คุ้มค่านั่งกระเช้าเลยเนี่ยะ ...อุตส่านั่งรถจากมหาลัยมาตั้งไกล
มาเหมือนมาไม่ถึงกันคนๆ 555
ป่ะ….
หารถเมล์กลับมอเห๊อะ พักผ่อนๆ