Ads

วันพุธที่ 17 มิถุนายน พ.ศ. 2563

[รีวิว]ร้านกาแฟเปิดใหม่ในย่านเมืองเก่าภูเก็ต ‘‘Momentary host-tell : Phuket Old Town’’ [Review]

                สวัสดีค่า บล็อกนี้จะมารีวิวร้นกาแฟที่เจชอบในย่านเมืองเก่าภูเก็ตค่ะ ร้านนี้มีชื่อว่า ‘‘Momentary hos-tell : Phuket Old Town’’ ร้านอยู่ที่ตลาดสดดาวน์ทาวน์ถนนกระบี่ในย่านเมืองเก่าภูเก็ตค่ะ ( ตรงที่มีรูปภาพสตรีทอาร์ตน้องมาดีใส่ผ้าถุงหย้าหยาน่ะค่ะ )

                Hello everyone, for this blog, I would like to review about the newest coffee shop in Phuket Old Town ‘‘Momentary host-tell’’, it is located inside the fresh market of the town near the Street Art of Krabi Road. ( Near Phuket local bus stop spot )




                เวลาเปิดปิดร้าน 8.30 – 20.00. / Opening hours 8.30 am. – 20.00 pm.

                ปิดทุกวันพฤหัสบดี / Close every Thursday


                ทางเข้าร้านค่ะ มีเอกลักษณ์ชัดเจนมากๆ มีลักษณะโค้งๆ เหมือนเป็นประตูทางโค้ง

                If you notice at the entrance clearly, you can see that it is decorated in curved shapes like this.

 





หน้าทางเข้าของร้านกาแฟก็จะตกแต่งไปด้วยภาพต่างๆ 

Beside there, few of pictures are hanged along the wall.




                เข้ามาในร้านบริเวณหน้าๆ ก็จะมีพวกโต๊ะไม้ ชั้นวางของที่มีของตกแต่งสไตล์ภูเก็ตเก่าๆที่เป็นเอกลักษณ์ค่ะ 

                Inside the coffee shop, most of them are wooden tables and chairs, also shelves which are full of Phuket signature items and so on.








                นี่คือเคาน์เตอร์สั่งอาหารและเครื่องดื่มของร้านค่ะ ราคาเมนูต่างๆก็สามารถเช็คตรงนั้นได้เลย 

                If you would like to order something like snacks of drinks, just order them here.






                เมนูที่เจชอบในร้านก็จะเป็นชีสเค้กหน้าไหม้ค่ะ รอบนี้มากับเพื่อนสนิท ก็ประเดิมไปกับ ชีสเค้ก เค้กช็อกโกแลตคัสตาร์ด ชาเขียวเย็น ชามะนาวเย็นค่ะ 

                For this time, my favourite cake is ‘‘Burned-cheesecake’’, also we had tried others as well such as Chocolate custard cake, iced green tea and Thai lemon tea. 




                เกือบทั้งร้าน ของประดับตกแต่งก็ยังคงจุดเด่นของภาพต่างๆตามผนังค่ะ

                Almost every point inside the shop are pictures, pictures and pictures.






                มุมถ่ายรูปของร้านที่ชอบนะคะ เข้ามาในส่วนลึกที่สุดของร้าน เป็นโซนเปิดค่ะ ไม่มีเพดาน และตกแต่งด้วยของประดับสไตล์วินเทจแหวกแนวผสมผสาน มีพวกโมบาย หุ่น ของเก่าๆ กิ่งไม้ มุมนี้แหละค่ะที่ลูกค้าชอบมาถ่ายรูปกัน

                Before the end, here is the highlight spot which you can take your time for photoshooting. This spot is a room without ceiling. With the mixture of decoration as I notice, hanging items, puppets, brunches, and others are so interesting.


























                จบการรีวิวค่ะ ต้องขอขอบคุณคุณเพื่อนสนิทที่ช่วยเป็นแบบให้ตลอด หวังว่าจะชอบกันนะคะ Hope you enjoy my blog

                ปล. บล็อกนี้เป็นบล็อกรีวิวสั้นๆส่วนตัวของเจเจเองค่ะที่อยากจะมาแชร์มาบอกต่อสิ่งที่เจชอบ เป็นเพียงความชอบส่วนตัวค่ะ ไม่มีการสนับสนุนจากสปอนเซอร์ใดๆค่ะ 

                This blog is written by me, without any sponsers.


วันอังคารที่ 16 มิถุนายน พ.ศ. 2563

[ไดอารี่]สมัยเป็นเด็กมหาลัยเรียนที่จีนปี 2 โดดหอ เที่ยวแบ๊คแพคเป้คนละใบติดใจกับทริปแรกที่แผนหนีสำเร็จ!! ตอนที่ 2 พาร์ท 2/2 เซี่ยงไฮ้ทริป (Shanghai 上海)

                สวัสดีค่า เป็นยังไงบ้างคะกับการเที่ยวชะโงกๆของเจเจ ( ทุกคนคงมีความรู้สึกว่า นี่เที่ยวแล้วหรอ ? ชะโงกมาก นี่สาบานว่าไปเที่ยวแล้วจริงๆ? เปิดวาร์ปเก่ง ) 55555  เอาล่ะค่ะ เรามาต่อกันเลยนะคะ

                วันนี้พวกเราก็เช็คเอ๊าท์ค่ะ ( พักแค่คืนเดียว ) จากนั้นก็พาไปเที่ยวถนนคนเดินค่ะ ชื่อว่า เถียนจือฝาง 田子坊  มันจะเป็นแนวตรอกซอกซอยที่ตกแต่งด้วยกำแพงอิฐสไตล์ยุโรปน่ะค่ะ  มีมุมถ่ายรูปเยอะจริงค่ะ แต่ก็เสียตรงที่คนเยอะ ( อีกแล้ว ) ของแอบแพงนิดนึง ร้านกิ๊ฟชอปเยอะ ร้านของที่ระลึก ของกินก็เยอะเช่นกันค่ะ อาจเป็นที่ล่อตาล่อใจให้มาละลายตังที่นี่ก็ได้น้าาาา











                จนกระทั่งพวกเราเดินไปเดินมาเล่นๆ ประมาณ 2-3 ซอยแรกๆ เราก็ไปเจอร้านกาแฟตกแต่งธีม ‘‘ห้องน้ำ’’ ค่ะ พวกเราเรียกมันว่า ร้านห้องน้ำ  Moderntoilet restaurant 田子放

     

                เข้ามาหน้าร้าน ก็เจอมุมขายของที่ระลึกของร้านเลยค่ะ ‘‘ตุ๊กตารูปก้อนอึ๊’’ พร้อมป้ายเมนูสัญลักษณ์บ่งบอกถึงสุขา




ข้างกำแพงตกแต่งด้วยโถฉี่ลอย



เก้าอี้ตกแต่งเป็นไม้แขวนเสื้อค่ะ




                อาหารมันแพงมากกกกกกกกกกกกกกก แพงหู่ฉี่จริงอะไรจริง ได้แค่สั่งสองอย่างมากินรวมกันคือ ‘‘พิซซ่า’’ และ ‘‘ ไอติมรูปอึ๊’’







                นี่ขนาดกินแค่นี้ก็ปาไปหลายร้อยบาทไทยแล้วง่า T^T  ( เงินก็ใกล้จะบ๋อแบ๋กันแล้วล่ะคนๆ )หลังจากที่สวาปามกันเสร็จ พวกเราก็ลุกมาถ่ายรูป เพื่อที่ว่า ได้มาแล้ว ^_^

 

บริเวณโต๊ะทานอาหาร มีฝักบัว โถส้วม ก้อนอึ๊ เพียบเลย เรียกได้ว่าเป็นธีมร้านโดยเฉพาะเลยค่ะ







                และพวกเราก็ได้ออกมาจากที่นี่ค่ะ ไปเดินเล่นในซอยลึกๆต่อ แต่ได้แค่เดินเฉยๆค่ะ ไม่ได้ทำไรมาก เวลามีน้อยค่ะ เพราะต้องกลับฉางโจววันนี้แล้ว สถานที่นี่ สำหรับสายถ่ายรูปชอบแนววินเทจ ชิคๆ เก๋ๆ มีสไตล์ก็แนะนำไม่ควรพลาดเลยค่า












                ต่อมาก็รีบถ่อตัวนั่งรถไฟใต้ดินไป China Art Museum ค่ะ เอ๊ยยยย…!!! นี่มันที่ๆเหมือนหน้าปกหนังสือเรียนภาษาจีนของเรานี่หว่า 555555 ไม่คุ้นก็ต้องคุ้นกันแล้วล่ะค่างานนี้




                แต่….พวกเราไม่ได้ถ่ายรูปเลย !!! เพราะวันนั้นคนเยอะมากกกกก เยอะแทบจะหากันไม่เจอ ทัวร์จีนคืออย่างแน่น แต่ว่าดีที่ว่าเข้าฟรี ไปถึงที่นั่นเค้าจะแจกตั๋วกระดาษเข้าฟรีให้ทุกคน แค่นั้นเลยจ้า








ได้แค่ถ่ายวีดีโอที่เค้าแสดงนิทรรศการค่ะ ( เหมือนจะทำคลิปอื่นหายหมดแล้ว TT^TT )

 



 

                สำหรับสถานที่นี้นะคะ ใครที่เป็นสายชอบงานศิลปะหรือผลงานจิตรกรต่างๆ มีทั้งภาพวาดต่างๆ รูปปั้น งานประดิษฐ์ โมบาย ภาพแขวน ของตกแต่งต่างๆนาๆ ถือว่าคุ้มค่าเอามากๆเลยนะคะ ข้างในใหญ่มาก แต่ว่าพวกเราไม่ได้สิงอยู่ที่นั่นนานนะคะ เพราะเดี๋ยวกลัวว่าจะไปชอปปิ้งไม่ทันค่ะ ( สายผลาญก็มา )

                ก่อนกลับเมืองฉางโจว เจพาเพื่อนไปชอปปิ้งที่ย่าน  ชีผู่ลู่ 七浦路 มันอารมแพลตตินัมประตูน้ำบ้านเราน่ะค่ะ แต่ไม่ได้หรูหราอ้ะไร แต่ของก็เยอะมากกกกก มีพวกเสื้อผ้า รองเท้า กระเป๋า เครื่องประดับ วิกผม บลาๆๆ  บริเวณแถวนั้นขั้นที่ว่ามีหลายตึก ตึกนึงก็หลายชั้น เดินวันเดียวยังไงก็ไม่ทั่วค่ะ  แต่ที่ชั้นใต้ดินของถูกค่ะ

จากนั้นก็นั่งรถไฟความเร็วสูงกลับเมืองฉางโจวโดยสวัสดิภาพค่า เพื่อกลับไปเรียนต่อ

 

                เป็นยังไงบ้างคะ กับทัวร์ชะโงกของเจเจ ผู้อ่านทุกคนคงจะตามไม่ทันกันสินะคะ 55555 เจอกันใหม่ในบล็อกหน้าค่า



JJDiary

วันอาทิตย์ที่ 14 มิถุนายน พ.ศ. 2563

[ไดอารี่]สมัยเป็นเด็กมหาลัยเรียนที่จีนปี 2 โดดหอ เที่ยวแบ๊คแพคเป้คนละใบติดใจกับทริปแรกที่แผนหนีสำเร็จ!! ตอนที่ 2 พาร์ท 1/2 เซี่ยงไฮ้ทริป (Shanghai 上海)

                มาต่อกันในทริปนี้เลยนะคะ ทริปเซี่ยงไฮ้นี้เป็นทริปที่พวกเราไม่ค่อยได้อยู่แช่ในสถานที่ท่องเที่ยวนานๆค่ะ เนื่องจากว่าคนมันเยอะมากๆๆๆๆๆถึงมากที่สุด เหมือนอารมแค่พาเพื่อนมาให้รู้น่ะค่ะ เพราะตอนปี 3 ยังไงๆเจเจก็ต้องมาเรียนที่เซี่ยงไฮ้อยู่แล้วค่ะ ก็เลยไม่ได้หวังที่จะมาเที่ยวอยู่เซี่ยงไฮ้เต็มที่ ออมกับซอลเพื่อนของเจเจเค้าจะไม่ได้มาเรียนที่เมืองเซี่ยงไฮ้ในปี 3 ค่ะ เนื่องจากพวกเค้าต้องแยกย้ายกับเจไปเรียนที่เมืองอื่นในจีนค่ะ ทริปนี้อารมเหมือนกับว่า พาเพื่อนมาให้รู้ถึงบรรยากาศเซี่ยงไฮ้คร่าวๆ บรรยากาศประมาณไหน เอาจริงๆมันก็ประมาณกรุงเทพบ้านเรานี่แหละ





                ก่อนที่จะมาเมืองนี้ เจเจได้วีแชทให้อาจารย์จีนช่วยหาโรงแรมที่เซี่ยงไฮ้ค่ะ เนื่องจากเซี่ยงไฮ้เป็นเมืองมหานคร เมืองเศรษฐกิจ ดังนั้น โรงแรมเถื่อนจะน้อยมาก โดยมากโรงแรมที่นั่นจะมีมาตรฐานมีใบอนุญาตหมดเลย เพราะเป็นเมืองที่มีชาวต่างชาติมาเที่ยวเอาเยอะมากๆด้วย อาจารย์ก็จองให้แถว People Square ให้ เพราะมันอยู่ใจกลางเมืองไปไหนมาไหนได้สะดวก หลังจากได้ที่พักแล้วนะคะ เจเจก็ถามพวกรุ่นพี่ที่เคยไปที่นั่นค่ะ เค้าจะแนะนำให้นั่งรถไฟใต้ดิน รถไฟใต้ดินที่เซี่ยงไฮ้นั่งง่ายและค่อนข้างครอบคลุมเกือบทุกเส้นทาง ไปไหนมาไหนคือสะดวกมากจริงๆ แอพลิเคชั่นเช่น Shanghai railway มีประโยชน์มากค่ะ อยากไปที่ไหนต่อไหน จิ้มได้เลย แต่พวกเจไปไม่กี่ที่หรอก





                วิธีเริ่มทริป ก็เหมือนเดิมค่ะ หาข้อมูลเท่าที่หาได้ นอน ตื่นเช้าหัวรุ่ง ย่องเบา (รอบนี้ไม่เจอยาม สงสัยหลับมั้ง) แล้วชิ่งออกนอกมหาลัยไปที่สถานีรถไฟ ^^





                สูตรเดิมค่ะ หลังจากที่นั่งรถไฟความเร็วสูงจากฉางโจว เราก็ได้นั่งรถไฟใต้ดินต่อไปยังสถานีที่โรงแรมที่จะไปพักตั้งอยู่ตรงนั้นเพื่อที่จะไปเช็คอินก่อน ไปวางกระป๊งกระเป๋าให้เรียบร้อย จากนั้นก็ออกตระเวนเที่ยวค่า

                สิ่งที่ดีในเมืองนี้ มันมีภาษาอังกฤษ!!! เรารอดตายแล้ววววววว จีนยิ่งโง่ๆกันอยู่ด้วยคนๆ

                มาประเดิมที่แรกเลยคะ ยวี่หยวน 豫园 Yu Garden เป็นสวนจีนที่เต็มไปด้วยบ้านทรงเก๋งจีน แม่น้ำ สวนเซ็น สะพาน บ่อปลาค่ะ ในนี้ก็จะเต็มไปด้วยร้านอาหาร ร้านขายของที่ระลึกเยอะแยะมากมายเลยทีเดียว









                มาทีนี่สิ่งที่ไม่ควรพลาดก็จะเป็น ขนมระฆัง ค่ะ เป็นขนมเค้กรูประฆังแล้วมีไส้นมกับไส้ช็อกโกแลตค่ะ จะซื้อไปเป็นของฝากเพื่อนๆหรือคนในครอบครัวก็แนะนำเลยค่ะ




                ต่อมานะคะ สิ่งที่คนไทยชอบทำตอนมาที่นี่คือการกินเสี่ยวหลงเปาค่ะ ซึ่งจะเป็นซาลาเปาที่ข้างในจะมีซุปร้อนๆ โดยที่ร้านจะให้หลอดดูดมาด้วย กินคนละก้อนพอนะ มันแพงมากเลยอ่า ที่อื่นขายไม่ถึงสิบหยวน ที่นี่ล่อไป 15 หยวนเลย  ตอนกินก็ระวังนิดนึงนะ ระวังลวกปาก




                ด้วยความที่เรามีเวลาไม่เยอะ เราเลยต้องรีบไปอีกที่นึงทันทีเลยค่ะ ซินเทียนตี้ 新天地 เป็นย่านๆนึงตกแต่งสไตล์ยุโรปค่ะ ไปถึงแล้วก็ซื้ออะไรไม่ได้เลย เพราะมัน แพง แพง แพง แล้วก็ แพงงงงง…!!!!!!! ได้แค่ไปด้อมๆมองๆชะโงกๆ เสร็จ จบ ออก !! 555555






                เดินเล่นๆไปๆมาๆ ไปเจอคนขายตั๋วเฉย เหมือนตั๋วอะไรก็ไม่รู้ อารมนิทรรศการศิลปะอ้ะ ก็เออ จ่ายๆเข้าไปดูให้พอเป็นพิธี



เข้าไปแล้วก็เจออย่างนี้เลย














ถ่ายมาคร่าวๆค่ะ คือมันนานมาก

                หลังจากที่ดูจบ เวลานั้นก็เริ่มเป็นบ่ายสี่โมงแล้ว คนเริ่มเลิกงานกันแล้ว สถานีรถไฟอู้อี้เป็นปลากระป๋อง  ต้องรีบไป The Bund กับ หอไข่มุก 东方明珠 เดินจ้ำๆหลงๆตาม 南京东路 ฝ่าดงคน แล้วรีบไป ( เพราะ คน มาน เย้อะะะะะะะ เดี๋ยวไปจับจองโลเคชั่นถ่ายรูปไม่ทัน )

                เอาจริงๆ ทุกๆทริปอ้ะ ถ่ายรูปเป็นที่ระลึกแค่ว่า เราได้มาถึงแล้ว แค่นั้นเลย!! ไม่ได้มีการคำนึงถึงความสวยความงามเล้ยยยย คนเยอะ แน่นมาก และกลัวเที่ยวไม่ทัน ชะโงกสุดๆอ้ะ 555555





















                หอไข่มุกนี่ สำหรับออมและซอลเพื่อนของเจเจนั้น หมายความว่า ‘‘ ชั้นมาถึงเซี่ยงไฮ้จริงๆแระ ’’ 55555

                ไฟที่หอไข่มุกรู้สึกมันจะเปิดประมาณ 1 ทุ่มมั้ง พอไฟเปิดเสร็จ ก็ ….กลับไปนอนเห๊อะ วันนี้เมื่อยตีนแล้วทั้งวัน ชะโงกสุดๆ 55555 กว่าจะเดินทางกลับไปถึงที่พักได้ โอยยยย คนก็เย้อะ เยอะ เยอะทุกที่เลย // นี่สาบานว่ามาเที่ยวกันจริงๆหรอ



บอกตรงๆว่า ความคมชัดไม่จำเป็น ณ จุดๆนี้ ( คนมันเยอะมากกกก )





ก่อนกลับ เจอรถแดงนี้ด้วย แต่ไมได้ขึ้น

 

 

จบแล้วค่ากับทริปชะโงกในแดนเซี่ยงไฮ้วันแรก เจอกันใหม่ในพาร์ทต่อไปนะค้า

 

***ปล. บล็อกเหล่านี้ภาพจะไม่มีความคมชัดหรือความว้าวใดๆทั้งสิ้นนะคะ เนื่องจากว่าช่วงนั้นโทรศัพท์มือถือเจยังเป็นมือถือพวกออปโป้รุ่นเก่าๆ รวมถึงเพื่อนๆมือถือก็ไม่ได้มีเป็นรุ่นใหม่ๆ เที่ยวแบบคนบ้านๆค่ะ ดังนั้นภาพจะไม่ชัด ไม่ว้าว และภาพจะเลือนลางมากค่ะ บวกกับที่พวกเราเที่ยวแบบชะโงก เน้นไปแปปเดียวแล้วย้ายที่ ทั้งนี้ทั้งนั้นเจจะใส่ภาพเพื่อแค่ให้มันเป็นตัวประกอบเฉยๆค่ะ โดยส่วนมากจะเป็นเน้นอ่านแทนนะคะ***

JJDiary