สวัสดีค่าเพื่อนๆ
หลังจากที่ได้ดื่มด่ำกับการเที่ยวแบบชิวๆ ลั้ลลา หนีจากหอพักมาถึง 2 ทริปแล้ว ตอนนี้ จะมาเล่าถึงทริปที่ 3 เลยนะคะ
หางโจว
เป็นเมืองหลวงของมณฑลเจ้อเจียงค่ะ ใช้เวลาเดินทางนานมากถึง 2 ชั่วโมงเลยทีเดียว ( เทียบกับ ซูโจว และ เซี่ยงไฮ้นี่
ใช้เวลาไม่ถึงชั่วโมงเลยค่ะ )
รอบนี้ใช้เวลาเดินทางยาวนานถึง 2
ชั่วโมงเลยทีเดียว ( ขนาดรถไฟความเร็วสูงนะเนี่ย ) หลับในรถไฟตลอดทางค่ะ
พอจังหวะที่ลงรถไฟเนี่ยแหละค่ะ คนเยอะมากกกกกกกกกกก มาจากไหนกันเยอะแยะ
แถมไม่พ้นอาม่าอาจ้ออาจุมม่าดักตามตื๊อมาขายทัวร์ อีกแล้วววว !!! เดินตามพวกเรามาอีกแล้ววววว ฮืออออ …!! และรอบนี้ที่อีปิคสุดๆคือ … พวกนาง พูด อังกฤษ ได้ !!!!! พวกนางเห็นพวกเราพูดภาษาอื่น
เลยพูดแทรกพวกเราว่า ‘‘West
Lake?! West Lake?!’’ ก็คือทะเลสาบซีหูน่ะแหละ
มาตื๊อว่า ไปมั้ยๆ เอาแผนที่มาให้ด้วย ชี้เจดีย์ให้ดูด้วย … สรุป พวกเราขอแค่แผนที่แล้ว
นั่งรถเมล์ชิ่งไปเลยจาาา…
ณ วินาทีนั้น พวกเราจับต้นชนปลายไม่ถูก งงกับทุกสิ่ง
เพราะว่าอย่างที่บอกค่ะว่าพวกเราทำการบ้านมาทริปนี้ไม่ดีเลย TT^TT…
จนกระทั่งไปเจอรถเมล์ที่จะพาเราไปลงที่ทะเลสาบซีหู พวกเราก็เลยขึ้นรถคันนั้นไป ( ค่ารถเมล์ที่นั่นแอบแพงกว่าฉางโจวค่ะ
มี 2 หยวน 2.5 หยวน 3-4 หยวนก็ยังมีค่ะ
) นั่งในรถไปประมาณ 5-6 ป้ายได้มั้ง เห็นทะเลสาบซีหู
พวกเราก็เลยลงจากรถค่ะ อยากจะบอกว่าคนเยอะมากกกก คนมาเดินเล่น ปั่นจักรยาน
ขึ้นเรือทั้งเรือหางยาวและเรือใหญ่ คือคนเต็มไปหมดเลย ( ไม่แปลกอ้ะ
เพราะตอนนั้นช่วงเทศกาลนี่นา ) แต่….
พวกเรายังเที่ยวไมได้ค่ะ T^T เพราะสิ่งที่พวกเราต้องมาหาเอาดาบหน้าคือ ‘‘ที่พัก’’ อีกแล้ว !!! ….. เดินสิคะ รอไร ??!! เดินจ้ำๆๆๆๆ
หาที่พักๆ เดินมาราธอนอีกแล้ว หลายที่พักก็เต็ม โรงแรมนี้ก็เต็ม ที่นั้นก็เต็ม
เต็มไปหมดเลย…. แล้วรอบนี้ที่พักราคาแพงกว่าที่พักที่ซูโจวมากกกกกกกกกกกกกก
แพงแบบน้ำตาจะไหลเลย พวกเจก็ไม่ได้มีเงินมากมายอะไรขนาดนั้น
กว่าจะได้ที่พักตอนนั้นก็เดินหาเป็นชั่วโมง รู้สึกจะได้คืนละ 400กว่าหยวน ตีเป็นเงินไทยก็ 2พันกว่าบาท แอบแพงอยู่ ( พอดีช่วงนั้นจีนเรทแพงเนื่องจากเหตุการณ์หุ้นตกค่ะ เรทแลกเงินช่วงนั้นอยู่ที่ 5.8-5.9 ) แต่ห้องนอน 3 คนได้ ตอนนั้นก็ต้องยอมค่ะ (
เนื่องจากที่อื่นมันไม่มีแล้ว เกือบต้องนอนข้างทางแล้วมั้ยล่ะ - - )
หลังจากที่ได้ที่พักแล้วนะคะ เวลานั้นก็น่าจะเริ่มเย็นๆแล้ว
ทำได้แค่เดินเล่นตามขอบทะเลสาบซีหูค่ะ เห็นคนเค้ากินปูเสียไม้แบบนี้
พวกเราก็เลยกินบ้าง …. ไม่ใช่ไร หิวแล้วด้วย T^T
จากนั้นตอนฟ้ามืดแล้ว เราก็ไปเดินย่าน ชิงเหอฝาง 清河坊 มันก็เป็นถนนคนเดินนี่แหละค่ะ
มีชาบ่อมังกรของขึ้นชื่อของเมืองนี้ขายเยอะมากค่ะ
แต่และแล้วฟ้าฝนก็ไม่เป็นใจ อย่างที่กล่าวไปช่วงแรกของบล็อกน่ะค่ะ ‘‘ฝน ตก หนัก มาก เวอร์’’ ตกยังกะว่าน้ำอิท่วมตอนนั้นให้ได้ ตอนนั้น ไม่ได้ใส่รองเท้าแตะด้วย
เปียกกันถ้วนหน้าเลย TT^TT …..รองเท้าของซอลเยินมากค่ะ
ด้วยความที่เป็นรองเท้าผ้า ตอนนั้นซอลต้องแวะซื้อรองเท้าแตะค่ะ (
อยู่ที่ไทยดันไม่ซื้อมาซื้อที่จีน บอกไว้ก่อนเลยค่ะ ราคารองเท้าแตะที่จีนนี่
แพงมากเวอร์ แต่รองเท้าผ้าใบดันถูก ) เดินได้แปปเดียว กลับที่พักเถ๊อะ…..
บล็อกนี้ขอจบไว้เพียงเท่านี้จ้า เจอกันใหม่ในพาร์ทหน้าค่า
JJDiary
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น