Ads

วันพุธที่ 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2563

[ไดอารี่]สมัยเป็นเด็กมหาลัยเรียนที่จีนปี 2 โดดหอ เที่ยวแบ๊คแพคเป้คนละใบเซ็งไก่ทริปผิดหวัง ตอนที่ 3 พาร์ท 2/2 หางโจวทริป (Hangzhou 杭州)

มาต่อเรื่องราวจากบล๊อกที่แล้วนะคะ….

                วันรุ่งขึ้น ก่อนที่จะออกไปเที่ยว พวกเราก็ถามอาอี๋ที่เคาน์เตอร์รีเซฟชั่นเรื่องสถานที่ท่องเที่ยว ทำให้กระจ่างเลยว่า นอกจากพวกเราจะทำการบ้านมาน้อยนิดแล้วนั้น บางอย่างพวกเราเข้าใจผิดเสียด้วย !!! ด้วยความที่เปิดอินเตอร์เน็ตข้อมูลไม่ตรงบ้าง บอกไม่เหมือนกันบ้าง พอมาเจอคนพื้นที่บอกมาจริงๆคือยังกะว่าหนังคนละม้วนเลย  ฮืออออ T^T….. ความตั้งใจในตอนนั้นคือ เจอยากพาออมกับซอลไป ‘‘หมู่บ้านราชวงศ์ซ่ง’’  宋城 เพราะเนื่องจากออมกับซอลเค้าเรียนสายประวัติศาสตร์จีนค่ะ  ก็เลยอยากพาเพื่อนๆไปเที่ยวสายวัฒนธรรมนิดนึง  แต่อาอี๋แกบอกว่า  สถานที่นั้นอ้ะ ไม่มีรถเมล์ไหนผ่านไปเลยนะ ต้องนั่งแต่ taxi เท่านั้น  เดินทางกว่าจะถึงตั้ง 2-3 ชั่วโมงอีกต่างหาก ค่าเข้าแพงหูฉี่ด้วย หลายร้อยหยวนเลย !!!! เพราะว่าด้วยตัวโลเคชั่นมันอยู่นอกเมือง  คือแบบ…. โอ้ หม่าย ก็อดดดดดด ไม่ได้ไปแล้วจา….. ก็เลยแบบ เออช่างมัน ตัดออกๆๆ  และจากนั้นก็ถามทางไป ‘‘วัดหลิงอิน’’ 灵隐庙  ( หาข้อมูลมาก่อนหน้านี้แล้วก็เลยมาถามเพื่อความแน่ใจ ) โชคดีที่มีรถเมล์นั่งต่อเดียวไปถึง ก็เลยเออ ไปที่นั่นละกัน

อย่างที่กล่าวไว้ตอนต้นค่ะ มาเที่ยวช่วงเทศกาลคนเยอะถูกมั้ยคะ?!! … นั่นแหละค่ะ รถแน่นรถเมล์ยังกะปลากระป๋อง แน่นแบบหายใจไม่ออก จะอัดคนอะไรกันนักหนาเนี่ย!! กว่าจะถึงวัดนี่แบบ…. โอยยยย จะเป็นลม  - -









บรรยากาศวัดนี้ จะมีธรรมชาติล้อมรอบค่อนข้างเยอะค่ะ แม่น้ำน้ำยังใสอยู่เลย ตามผาหินจะมีพระพุทธรูปอยู่ด้านในเป็นจุดๆค่ะ





















                ถ้าเดินขึ้นมาบนๆ ก็จะมีวัดเป็นจุดๆค่ะ แต่ว่า แอบเหนื่อยเหมือนกัน ทางค่อนข้างชัน บวกกับช่วงนั้นฝนตก มีตะไคร่เยอะ กลัวลื่นค่ะ














                หลังจากที่สิงสถิตในวัดนั้นมานานอยู่ ก็รู้สึกไม่มีอะไรทำ นั่งรถเมล์ย้อนกลับมาเดินเล่นที่ทะเลสาบซีหู ( อีกแล้ว ) เจอเหล่าคนจีนที่ให้บริการเช่าจักรยานมาตามตื๊ออ้ะ เดินตามหลังมาเฉยเลยว่าจะเช่าจักรยานมั้ยคร้าบบบบ??... พวกเราก็ต้องเดินจ้ำๆหนีอีกแล้วววว ….รอบนี้คือ ไหนๆก็ไหนๆแล้ว จ่ายค่าขึ้นเรือล่องบนทะเลสาบมันเลยละกัน 55555  ให้มันได้ฟีลแบบว่า เรามาถึงหางโจวแล้ว


















                ดีที่ฝนไม่ตก ลมดีหน่อย บรรยากาศโอเค ลงเรือเสร็จ ก็เดินเล่นยาวๆ เนื่องจากคนมันไม่มีอะไรทำจริงๆ 55555
















                จากนั้นก็ได้แต่เดินเล่นเรื่อยเปื่อยจริงๆหาของกินอะไรก็ไม่รู้ เย็นวันนั้นไปไหนมาไหนก็ไม่ได้อีกแล้วเพราะ ฝนตก อีกเช่นเคย …. แล้วก็หมดไปอีกวันนึงค่ะ บอกตรงๆเลยว่า ร่มกันแดด 20 หยวน ที่ซื้อมา ใช้คุ้มที่สุดแล้วสำหรับทริปนี้

--------------------------------------


                วันสุดท้ายของทริปนี้ค่ะ ตื่นนอน เก็บของ เช็คเอ๊าท์ออกจากโรงแรมค่ะ ไม่มีอะไรทำอีกเช่นเคย ไม่มีที่ไป ไม่มีอะไรในหัวอีกแล้ว ไปเดินเล่นฆ่าเวลาที่ทะเลสาบซีหู ( อีกแล้ว ) …. เดินเล่นไปสักพักก็เริ่มเดินไปเรื่อยละ ออกไปที่ไหนต่อไหนก็ไม่รู้เหมือนหาเรื่องหลงทางเล่นๆ เพราะว่าเวลารถไฟนี่กลางค่ำกลางคืนเลย






จุดนึงนี่ต้องถ่ายให้ครบทุกคน 



























                เดินเล่นกันไปสักพัก นึกขึ้นได้ว่า นั่งรถเมล์ไปเจดีย์นู่นนี่นั่นมั้ย ไปก็ไป อ้ะ สรุป หวยก็ไปออกที่ เจดีย์เหลยเฟิง 雷峰塔 Leifeng Pagoda ก็นั่งรถเมล์ยาวๆไปเลยแจ่ะ( ที่จริงมันมีเจดีย์อีกที่นึง แต่หารถเมล์ที่จะไปที่นั่นไม่เจอ ก็เลย ไม่ไปมันแระ 555555 )


                พอมาถึงที่นี่ก็ไม่พ้นคนเยอะอีกแล้วนะฮะ แหงนหน้าขึ้นไปมองที่เจดีย์ คนโผล่ออกมาที่ระเบียงเจดีย์เพียบ เห็นละท้อ…!! ( จีนนี่ประชากรเค้าเยอะจริงๆ ) บวกกับจะเข้าเจดีย์ก็ต้องมีค่าผ่านประตูอีก ก็เออ ไม่เข้าไปละ ถ่ายแค่ด้านหน้าก็พอเนอะ จับจองโลเคชั่นที่พอหนีคนเยอะๆได้ก็พอ เห็นแค่ยอดเจดีย์ก็เอาละว้า 55555

















                หลังจากนั้นก็ไม่มีอะไรทำกันจริงๆจังๆละ กลับสถานีรถไฟ นอนเล่นรอในนั้นแล้วขึ้นรถไฟกลับฉางโจว รอบรถไฟดึกมากค่ะ 2 ทุ่มกว่า ถึงฉางโจวก็ประมาณ 4ทุ่ม เกือบ 5ทุ่มเลย ที่ซวยไปกว่านั้นคือ ตอนถึงฉางโจวแล้ว รถเมล์หมด !!!!! โอ๊ยยยย แค่ช้าไปก้าวเดียวเอง ..!!!!! เหมือนตอนนั้นจะเห็นรถคันสุดท้ายเพิ่งออกไปต่อหน้าต่อตานะถ้าจำไม่ผิดน่ะ ...... เพราะเจ้าช่วยยยยย !!! หลังจากนั้น ความซวยก็มาเยือนพวกเราค่ะ   เริ่มมีแต่เหล่าแท็กซีเถื่อนคอยดักพวกเราเต็มไปหมดค่ะ( เหมือนเค้ารู้ว่าพวกเราเป็นนักท่องเที่ยว) พวกเราก็ต้องปฏิเสธน่ะค่ะ ต่อให้พวกเค้าเดินตามมาพวกเราก็พยายามปลีกตัวห่างน่ะค่ะ ด้วยความที่พวกเราเป็นผู้หญิง ภาษาจีนไม่ได้แข็งแรงขนาดนั้น ก็กลัวการถูกหลอกง่ายค่ะ  แท็กซีป้ายดำตอนนั้นเยอะมากๆ….เดินไปเดินมาตอนนั้นก็ห้าทุ่มกว่าๆแล้ว ทั้งมืดฝน หมอกลง ทั้งอากาศเย็นชื้นจนกระทั่งเดินออกไปถนนใหญ่ เจอรถเมล์สายเดียวกันกับที่นั่งไปมหาลัย  แต่….เค้าขับคนละเส้นทางน่ะสิ ( เพราะมันเป็นป้ายที่อยู่ฝั่งตรงข้ามค่ะ ) ….. ถึงอย่างนั้นก็เถอะ ตอนนั้นไม่มีทางเลือกค่ะ!! พวกเราก็เลยถือโอกาสขึ้นรถไปก่อน จนกระทั่งคนขับขับรถไปที่จุดพักรถเมล์ ( มันสุดสายพอดี ) และถามว่าพวกเราจะไปไหน ทำไมถึงขึ้นรถเอาป่านนี้? ….พวกเราก็พูดภาษาจีนอันไม่แข็งแรงกับคนขับว่า…. พวกเราจะกลับมหาลัย แต่รถหมด พวกเราเลยขึ้นรถนี้มา มันเป็นสายเดียวกันแต่พวกเราก็เข้าใจค่ะว่ามันเป็นคนละเส้นทาง….. โชคดีที่คนขับคนนี้พูดภาษาอังกฤษได้ !! เค้าเลยชี้ให้เราไปขึ้นอีกคันนึง ซึ่งคันนั้นเค้าจะเป็นคนขับพาไปยังเส้นทางที่พาเรากลับไปยังมหาลัยค่ะ …. โอยยยยย สวรรค์มาโปรด เกือบกลับมหาลัยไม่ได้แล้วมั้ยล่ะ T^T  ??! ถ้ากลับมหาลัยไม่ได้นี่ โป๊ะแตกถูกอาจารย์สวดยับแน่นอนพาลทำเอาเพื่อนๆในมหาลัยมีปัญหาตามไปด้วยเลย !!!


                ทริปนี้ทำให้ได้รับบทเรียนในหลายๆอย่างเลยค่ะ 1. ควรวางแผนเส้นทางให้ดีกว่านี้ ถ้าเป็นไปได้ควรเตรียมจากที่ไทยก่อน ไม่ควรมาหวังที่จีนเพราะปกติจีนก็ล็อกหลายเว็บไซด์อยู่แล้ว แต่ปีนี้ทางจีนเค้ามีความเข้มงวดมากกว่าเดิม 2.หากต้องกลับดึก ในช่วงที่รถโดยสารหมดแล้ว ควรมีนามบัตรคนขับแท็กซีที่น่าไว้ใจได้พกติดตัวไว้บ้างก็ได้ อาจจะถามจากเพื่อนๆ รุ่นพี่ หรืออาจารย์ในมหาลัยก็ได้ 3.พยายามหลีกเลี่ยงการไปเที่ยวช่วงเทศกาลค่ะ ต่อให้เป็นเทศกาลสั้นๆไม่กี่วัน คนจีนเค้าก็ออกมาเที่ยวกันเยอะค่ะ ต่างจากคนไทยที่พักผ่อนอยู่บ้าน  4. ไม่ควรหาที่พักไปเสี่ยงเอาดาบหน้าช่วงเทศกาล เพราะโรงแรมส่วนมากจะเต็ม

                ทริปนี้จะไม่ค่อยมีอะไรเท่าไหร่ค่ะ ก็ตามชื่อหัวเรื่องเลยค่ะว่าแอบผิดหวังด้วยปัจจัยหลายๆอย่าง แต่ก็เป็นอีกทริปนึงที่เจอแต่ประสบการณ์แปลกๆเข้าตัวทั้งนั้นเลย เอาจริงๆตอนนั้นก็ซีเรียสกับสิ่งที่เจอนะ แต่พอเวลามันผ่านไปเรื่อยๆ พอเอามาเล่ากันทีหลัง ดันขำซะงั้น


            หากชอบก็คอมเม้นได้นะคะ เจอกันใหม่ในบล๊อกหน้าค่ะ

JJDiary

1 ความคิดเห็น: